สวนสมดุล

ออกให้ปุถุชนสามัญได้มีโอกาสเป็นเจ้าของ ได้สัมผัสถึงความงดงามและความสงบแห่งดินแดนอันลี้ลับแห่งพระเป็นเจ้า คำว่า “paradise” ที่แปลว่าสวรรค์นั้น จากรากศัพท์ในภาษาเปอร์เชีย ก็คือคำๆเดียวกับศัพท์ที่ใช้เรียก “สวน “ดังนั้น สวน ก็คือ แดนสวรรค์นั่นเอง ไม่ว่าคุณจะมีสวนแบบใดก็ตาม สวนนั้นคือแดนสวรรค์ส่วนตัวสำหรับคุณ เนื่องจากเราทุกคนมีความแตก ต่างกัน ภาพลักษณ์แห่งสวนสวรรค์ของทุกคนจึงแตกต่างกันไปด้วย ดังนั้นแล้วจึงไม่มีสวนแห่งใดที่เหมือนกันเลย
กระนั้นก็ตาม มิได้หมายความว่าความสุขจากการที่ได้สร้าง ได้ทำ และได้มีสวนจะแตกต่างกันไป ผู้มีสวนทุกคนคง จะเข้าใจดีว่าความสุขจากการมีสวนนั้น มิได้มีจุดใหญ่ใจความอยู่ที่การได้เดิน ได้ทานอาหาร หรือได้นั่งเล่นอยู่ในสวนเพียง เท่านั้น หากแต่อยู่ที่การได้สร้าง ได้ทำและได้ดูแลสวนอย่างใกล้ชิดต่างหาก
ในสภาพสังคมที่ดึงเราห่างไกลธรรมชาติออกไปทุกที ก่อให้เกิดสภาวะอันไม่สมดุลแห่งจิตใจขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัว วัตถุ ดึงเราห่างออกจากตัวเราทุกขณะ ดังนั้นการได้มี การสร้าง และการดูแลสวน จึงเป็นวิถีทางหนึ่งที่สามารถช่วยให้เราใกล้ชิด ธรรมชาติมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็สามารถฟื้นฟู และเสริมสร้างสภาวะสมดุลแห่งสภาพจิตใจให้เกิดขึ้นได้อย่างง่ายดาย เมื่อเราดูแลสวน ขณะที่เรารดน้ำต้นไม้หรือถอนวัชพืช ในขณะเดียวกันนั้นเอง สวนก็กำลังดูแลเราด้วยเช่นกัน เมื่อเป็นเช่นนี้ แล้วการดูแลสวนจึงไม่ใช่ภาระหน้าที่ หากแต่เปรียบเสมือนคุณค่าแห่งการที่ได้ครอบครองส่วนหนึ่งของสวรรค์นั่นทีเดียว การรักษาสมดุลในสภาพแวดล้อมที่สร้างขึ้น ให้เหมือนหรือละม้ายกับสมดุลที่ดำรงอยู่ในธรรมชาติจึงเป็นหน้าที่ของผู้ออก แบบและผู้ดูแลรักษาที่สร้างสวนนั้นๆขึ้น ผู้ออกแบบจึงต้องมีความรู้ ความเข้าใจที่เกิดจากการเฝ้าสังเกตกิริยา ปฏิกิริยา และความสมดุลขององค์ประกอบต่างๆ ด้วยเหตุนี้เราจึงได้มีสวนสามฤดู สวนฤดูร้อน สวนฤดูหนาว เกิดขึ้น เนื่องจากผู้ออก แบบมีความเข้าใจเรื่องพันธุ์ไม้และการดูแล มากพอที่จะกำหนดได้ว่า สวนนั้นจะมีไม้ดอกที่บานในเวลาใดมาอยู่ร่วมกัน ไม่ว่าสวนนั้นจะอยู่ในสถานที่ใดบนโลก สวนยังคงเป็นสวน พาหนะสู่สมดุลของจิตใจที่วิเศษ สวนใดที่ต้นไม้ไม่ได้รับการตัด แต่งดูแล สวนใดที่ก้อนหินสั่นคลอนและร่วงกระจาย ก็เท่ากับว่าชีพจรแห่งสวนนั้นได้ดับสิ้นลง ประโยชน์และคุณค่าใดที่สวน เคยก่อเกื้อให้เกิดขึ้นก็ดับสิ้นลงพร้อมกัน ฉะนั้นแล้วการเอาใจใส่ดูแลสวนจึงไม่ใช่เป็นเพียงภาระหน้าที่ หากแต่เป็นส่วนหนึ่ง ของคุณค่าแห่งการที่มนุษย์ได้มีโอกาสครอบครองส่วนหนึ่งของสวนสวรรค์นั่นเอง

เพราะเราจะมีโอกาสได้เห็นสิ่งอื่นที่มากกว่าความงาม นั่นคือการใช้สอยที่ดี พอเหมาะควร และส่งเสริมสถานที่
อย่างยิ่ง หลายท่านที่ได้มีโอกาสสัมผัสโรงแรมชั้นนำ ที่ตั้งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่งดงาม โรงแรมที่กลม
กลืนกับธรรมชาติ อวดมุมมองที่งดงามที่สุดของสถานที่ จำลองมาให้เราชมผ่านระเบียงหรือโถงโล่งโปร่ง คงซาบซึ้ง
กับสิ่งที่ผู้เขียนกล่าวได้ดี นั่นกระมัง ส่วนที่วิเศษที่สุดขแงสถาปัตยกรรมที่เราสัมผัสได้
 สถาปัตยกรรมไม่ได้มีความวิเศษเพียงแค่ที่เรากล่าวไว้ข้างต้น หากยังมีความลุ่มลึกน่าพิจารณาอีกหลายประการ
เราทุกคนคงเคยพบสถานที่บางสถานที่ ที่เมื่อเราได้เข้าไปใช้แล้ว เกิดความรู้สึกเป็นเจ้าของ (มี sence of place) ไม่ว่า 
 จะด้วยการมีโถงกลางเป็นจุดร่วมของทุกคน หรือด้วยการเน้นพื้นที่บางส่วนเป็นที่พักผ่อน น่านั่ง น่าสนทนา 
นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งในการออกแบบสถาปัตยกรรม ที่ผู้ออกแบบจงใจสร้างสรรค์ขึ้นโดยที่เรา ไม่เคยสังเกตถึง
ความจงใจนั้น เคยมีคนใกล้ชิดในคณะสถาปัตยกรรม บอกกับผู้เขียนว่า งานสถาปัตยกรรมที่ออกแบบดีนั้น จะไหลลื่น และ 
 กลมกลืนไปกับการใช้งาน จนไม่ค่อยมีผู้สังเกตว่า นั่นคืองานออกแบบที่ดี แต่ถ้างานออกแบบใด ขัดแย้งหรือเป็น 
 อุปสรรคต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันแล้วละก็ ผู้ใช้จะรับรู้ได้ทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาสังเกตเลยด้วยซ้ำ 
 ฟังมาถึงจุดนี้ ท่านสถาปนิกคงอยากร้องไห้ 
 นอกจากการเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ใช้งานแล้ว เรายังต้องยอมรับว่า
 สถาปัตยกรรมยังแนะนำให้เราเข้าไปรู้จัก กับอะไรอื่นอีกมากมาย ดังเช่นที่กักเกนไฮม์ มิวเซียม นิวยอร์ค 
 แนะนำให้เราชมศิลปะอย่างมีความต่อเนื่อง นั่นก็ สถาปนิกที่แนะนำวิธีชมงานศิลปะแบบใหม่ให้เรา
สถาปนิกยังนำเราเข้าไปสู่ความภาคภูมิใจในสถานที่ ความรู้สึกเป็นเจ้าของร่วมอันเป็นส่วนหนึ่งของสังคม
ความรู้สึกนี้เป็นอย่างไร ใครที่เคยพาฝรั่งไปชื่นชมพระบรมมหาราชวังของเรา คงเข้าใจสิ่งที่ผู้เขียนต้องการจะบอก 
 ได้เป็นอย่างดี สถาปนิกเปิดโอกาศให้เราได้คิด ได้สัมผัส ได้รู้จักสังคม วัฒนธรรม ประเพณี ขั้นตอนการใช้ชีวิต 
 ขั้นตอนการ ทำงาน รสนิยม สิ่งที่พึงปฏิบัติ ความงาม แงะอื่นๆอีกมากมาย ที่เรายังไม่ได้พูดถึงกัน 
 เพราะสถาปัตยกรรมคือสถานที่แห่งความตั้งใจ ไม่ว่าจะตั้งใจทำงาน ตั้งใจอยู่ ตั้งใจใช้สอย 
เพราะสถาปัตยกรรมคือสถานที่แห่งคำบอกเล่าของผู้ออกแบบและเจ้าของสถานที่ 
เพราะสถาปัตยกรรมคือสถานที่ เป็น “เทศะ” ที่แสดงถึง “กาละ” ที่อาจหมายถึงช่วงเวลาและโอกาส
เพราะสถาปัตยกรรมคือสถานที่แห่งศักยภาพของมนุษย์เรา 
 นั่นคงอยู่ที่ว่า พวกเราให้คุณค่ากับสถาปัตยกรรมมาก หรือน้อยเพียงใด

หากจะให้ใครซักคนฝันถึงงานออกแบบตกแต่งภายในที่เหมาะกับตัว ใครคนนั้นจะหลับตาฝันถึงทุกมุมมองที่เขาต้องการทุกย่างก้าวที่เดินเข้าไปในบ้าน สำนักงาน ที่ใดก็ตามแต่ ด้วยความรู้สึกรักและภาคภูมิใจในสถานที่นั้นๆเราคงไม่สามารถมองภาพแปลกใหม่ไปได้มากกว่าที่เราคุ้นเคยนัก ทั้งๆที่เราบอกได้ว่าความต้องการมากมายของเราคืออะไร แน่นอน นั่นมันมากกว่าที่เรานึกภาพเห็นเสียอีกใครล่ะที่ทำความฝันให้กลายเป็นความจริง ใครล่ะที่เข้าใจเรื่องรสนิยมและจินตนาการว่ามันคือภาพที่จับต้องไม่ได้ และเป็นสิ่งที่ต้องค้นหาจึงได้มา คำตอบคือมืออาชีพนั่นเอง มืออาชีพเข้าใจในเรื่องนี้มากกว่าที่คุณคิด ถ้าเป็นคุณคงเป็นเรื่องยากที่จะบอกให้ลูกค้าเล่าถึงความชอบและความฝันของตัวเอง แต่มืออาชีพทำเรื่องนี้บ่อยจนกลายเป็นเรื่องของตัวเอง นักออกแบบจะต้องเข้าอกเข้าใจในตัวลูกค้าจนมีความคิดเห็นในโครงการนั้นเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับลูกค้าให้มากที่สุด นี่เรายังไม่ได้พูดถึงกระบวนการออกแบบกันเลย หลังจากสำรวจความต้องการแล้ว การออกแบบคือการแก้ปัญหา อาจารย์ของเราว่าไว้เช่นนั้น ความยากของงานจึงอยู่ที่ปัญหานั่นแหละว่าเล็กหรือใหญ่ เกี่ยวข้องกับคนจำนวนมากน้อยเท่าไร ถ้าคุณทำ
เรือนหอ ปัญหาก็มีขอบเขตเท่าที่คนสองคนต้องการ แต่ถ้าคุณทำโรงแรมร้อยห้องพักพร้อมสาธารนูปโภคครบครัน ขอบเขตของปัญหาก็กว้างขึ้นมาก ทาเงเลือกจึงมีมากมายหลายทางในการแก้ปัญหา นักออกแบบเป็นผู้ที่ได้รับความไว้วางใจให้เลือกวิธีแก้ปัญหา และแน่นอนหน้าที่ที่ต้องทำคือการทำให้ลูกค้าไว้ใจ ไม่มีใครออกแบบไม่ได้แต่มีน้อยคนที่ออกแบบเป็น นั่นคือความจริงที่นักออกแบบพบอยู่ทุกลมหายใจ การออกแบบคือการแก้ปัญหา เราเชื่อว่าคนทุกคนแก้ปัญหาได้ แต่ไม่เชื่อว่าคนทุกคนแก้ปัญหาได้ดี 
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีโครงการจะตกแต่งอะไรสักอย่าง คุณคงพบว่าคุณมีสิ่งที่อยากได้มากเหลือเกิน ของที่เหมือนๆกันเช่นเก้าอี้ก็ยังมีร้อยกับพันแบบให้คุณเลือก ใครจะทำหน้าที่ค้นว่าจริงๆแล้วคุณต้องการอะไรกันแน่ เมื่อถึงขั้นสุดท้ายของการออกแบบ 
สิ่งที่เหมาะกับคุณก็จะถูกเลือกขึ้นมาทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นเพียงส่วนหนึ่งในการออกแบบ เรายังมีงานอีกมากที่ทำอยู่เบื้องหลัง งานที่คนไม่เข้าใจแม้จะนับว่าเป็น งาน ถ้าคุณไว้ใจตัวคุณเอง คุณย่อมสามารถออกแบบเพื่อความต้องการของตัวคุณได้เสมอ แต่ถ้าไม่แน่ใจ พึ่งพานักออกแบบมืออาชีพจะดีกว่า อย่าลืมว่าเราลงทุนสร้างสิ่งก่อสร้างไม่บ่อยครั้งนักในหนึ่งชีวิต